ในวงการหูฟังจะมีการแบ่งลักษณะหูฟังด้วยหลายปัจจัย หากแบ่งตามขนาดและลักษณะการสวม เราก็จะมีหูฟัง
1 หูฟัง Earbud รูปทรงจะคล้ายหูฟังแบบสายที่แถมมากับ iphone ในยุคแรกหรือหูฟังที่แถมมากับเครื่องเล่นเพลงอย่าง ipod หรือเป็นหูฟังที่แถมมากับเครื่องเล่นเพลงยุคอนาลอกอย่างเครื่องเล่นเทปกันเลย
2 หูฟัง inear ที่ลักษณะจะเป็นก้อนๆเล็กๆที่จะต้องมีจุกยาง มักเป็นหูฟังที่แถมมาในยุคสมัยปัจจุบัน ซึ่งจะให้เสียงเบสที่ใหญ่โตกว่า ได้รับการปรับปรุงออกมาทีหลัง earbud หูฟังแบบนี้มักกันเสียงภายนอกไม่ให้เล็ดลอดเข้าไปในหู บางครั้งคนที่ไม่ชินก็จะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง ขนาดตัวหูฟังจะไม่ใหญ่ ถือว่ามีความกระทัดรัดหรือเล็กที่สุดเมื่อเทียบกับหูฟังชนิดอื่น
3 หูฟัง on ear ที่มีขนาดของตัวส่งเสียงใหญ่ใกล้เคียงใบหู เวลาใช้งานก็จะแปะไว้กับหู ซึ่งอาจจะมีสายคาดบนศรีษะ หรือ มีก้านคล้องสำหรับแขวนกับใบหูก็ได้ หูฟังแนวนี้จะไม่คลุมหูเราสนิท เราจะได้ยินเสียงภายนอกได้ค่อนข้างชัด เหมาะกับการใช้ฟังเพลงที่ยังคงต้องการได้ยินเสียงภายนอกอยู่ด้วย
4 หูฟัง Fullsize ที่เป็นลักษณะครอบใบหูไว้ทั้งใบหูเลย ขนาดตัวส่งเสียงจะใหญ่มาก พวกนี้ต้องมีก้านครอบศรีษะ น้ำหนักค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นหูฟังที่ให้คูณภาพที่ดีที่สุดด้วย บริษัทที่ทำหูฟังขายก็มักจะมีรุ่นท๊อปสุดเป็น fullsize
หูฟังในยุคปัจจุบันเป็นของจำเป็นที่จะต้องมีติดไว้ใช้กับโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ เพราะตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อโควิด การสื่อสารผ่านหน้าจอหรือการประชุมผ่านหน้าจอเป็นสิ่งจำเป็น การพูดคุย การต่อไมโครโฟน การต่อหูฟังเพื่อใช้สื่อสารก็เป็นเรื่องจำเป็น นั่นทำให้วงการหูฟังคึกคักมากขึ้น และที่นิยมมากจนตลาดแตกคือหูฟังไร้สายหรือหูฟังบลูทูธ หรือเรืยกให้เต็มยศก็ หูฟังแบบ True wireless ซึ่งทำออกมาขายกันเกือบทุกยี่ห้อแล้ว ซึ่งลักษณะรูปทรงของหูฟังก็มีหลากหลายไม่ต่างจากหูฟังแบบมีสายเลย
หูฟังในส่วนของการเล่นเกมส์ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น อุปกรณ์เล่นเกมส์หลายอย่างก็ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้อรรถรสการเล่น จากคุณภาพระดับทั่วไปที่ฟังเพลงไม่เพราะก็พัฒนาให้มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น มีการเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเสียงรอบทิศภายในหูฟังเพื่อให้เล่นเกมส์ได้สนุกขึ้น ใช้ดูหนังได้สมจริงคล้ายกับอยู่ในโรงหนัง ปรับปรุงไมโครโฟนให้รับเสียงดีขึ้น นอกจากนี้ก็ยังปรับปรุงหน้าตา สีสัน และดีไซร์การออกแบบที่ดูสวยงาม และโพสท์นี้ผมก็ได้ทดสอบหูฟังเล่นเกมส์ตัวหนึ่งที่หน้าตาสวย โดยผมเห็นหูฟังตัวนี้มานานแล้วแต่ก็ไม่ได้สนใจมากในทีแรก พอเห็นว่ามีลดราคาแรงๆก็ใจแตก กดซื้อมาจนได้
Epos เป็นยี่ห้อที่ทำผลิตภัณฑ์สำหรับการเล่นเกมส์ โดยเป็นเครือเดียวกับ Sennheiser ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ไมโครโฟนและหูฟังมายาวนานมาก Epos GSP301 เป็นหูฟังทรง Full size ที่มีตัวส่งเสียงใหญ่ครอบใบหูได้ทั้งใบ รูปทรงสีขาวตัดกับสีดำดูทันสมัย มองผ่านๆก็ชวนให้นึกถึงตัวละครในหนังเรื่องสตาร์วอร์ ก้านไมค์ก็ดูใหญ่แข็งแรง มีวอลลุ่มที่ตัวหูฟังเพื่อปรับความดังเบาได้เลย สายเสียบก็เป็นชนิด 3.5มม. จำนวน 2 ตัว ตัวหนึ่งเป็นแจ็คหูฟัง อีกตัวเป็นแจ๊คของไมโครโฟน ก้านไมค์บิดขึ้นบิดลงได้ หากเราอยากปิดเสียงไมค์ ไม่ต้องการให้ไมค์ทำงานก็บิดก้านไมค์ขึ้น แต่หากจะใช้ไมค์ก็แค่บิดก้านไมค์ลงมาใกล้ปาก
สเป็คคร่าวๆของหูฟังเป็นดังนี้
Color | white |
Wearing style | Headband |
Impedance | 19 Ω |
Connector | 2 x 3.5 mm / 1 x 3.5 mm (PCV 05 Combo Audio Adaptor) |
Frequency response (Microphone) | 10 – 15,000 Hz |
Frequency response (Headphones) | 15 – 26,000 Hz |
Sound pressure level (SPL) | 113 dB |
Ear coupling | Circum-aural |
Cable length | 2 m |
Weight | 290 g |
Pick-up pattern | Noise-cancelling |
Microphone sensitivity | – 41 dBV/PA |
สเป็คที่สำคัญก็คือ ความไวหรือ SPLของหูฟังอยู่ที่ 113dB ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง หมายความว่าหูฟังตัวนี้ให้เสียงที่ดังแม้จะใช้งานกับเครื่องเล่นเพลงหรือคอมพิวเตอร์ที่มีกำลังขับที่ไม่แรงมาก ความต้านทานที่ต่ำประมาณ 19โอห์มทำให้มันเหมาะกับเครื่องเล่นแทบทุกเครื่อง จะเรียกว่าไม่กินกำลังขับเลยก็ได้ แต่ข้อเสียของความไวระดับนี้ก็คือ มันจะไวต่อสัญญาณรบกวนด้วย ถ้าเราใช้กับซาวด์การ์ดคุณภาพต่ำ หรือ แอมป์ขยายเสียงที่ทำมาไม่ดี มีสัญญาณรบกวนอยู่ในวงจรขยายเยอะก็จะทำให้เราได้ยินเสียงซ่าบางๆอย่างชัดเจน
ทดลองฟัง
เมื่อฟังเพลงต่างๆ ก็พบว่า หูฟังตัวนี้ให้เสียงโดยรวมถือว่าดี เสียงสูงมีปลายแหลมที่ทอดยาว ไม่ทึบ เสียงกลางชัด เสียงเบสอิ่มหนา มีความหวานอยู่ในน้ำเสียง ให้เสียงฟังสนุก โฟกัสเสียงร้องอยู่ตรงกลางหัวเป๊ะ วอลลุ่มที่มากับหูฟังก็มีปุ่มหมุนที่ใหญ่โต ปรับหมุนเพื่อลดเสียงได้แม่นยำตามความรู้สึกเลย ผมชอบปุ่มปรับระดับเสียงแบบนี้ เพราะว่ามันปรับได้ระดับที่ตรงกับความต้องการจริงๆ หลายครั้งที่ใช้หูฟังที่ไม่มีตัวปรับเสียงแยก เวลาปรับความดังเบาที่ปุ่มโทรศัพท์ก็จะไม่ได้ความดังที่พอดีกับความต้องการ เลื่อนขึ้นนิดก็ดังเกินไป เลื่อนลงหน่อยก็เบาไป การมีปุ่มหมุนโดยตรงแบบนี้ทำให้ปรับละเอียดได้เป็นความปราณีตเล็กๆน้อยๆที่มีให้ใช้งาน
จุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือเป็นหูฟังทรง Gaming ที่ฟังเพลงเพราะ เมื่อก่อนเป็นเรื่องที่หายากหรือถ้าจะมีหูฟังเล่นเกมส์ที่ฟังเพลงเพราะก็มักจะราคาแพง แต่สำหรับยุคนี้ หูฟัง Gaming ในปัจจุบันน่าจะพัฒนากันโดยส่วนใหญ่แล้วทำให้ราคาไม่แพง น้ำเสียงของไมค์โครโฟนก็มีคุณภาพเสียงที่ดี ไม่บีบเสียงหรือเน้นเสียงแหลมจนผิดธรรมชาติ สามารถบันทึกเสียงพูดเพื่อทำคอนเท้นต์ได้เลย ลองฟังคลิปรีวิวที่ใช้ไมค์ของหูฟังตัวนี้บันทึกที่ด้านล่างสุดครับ
แจ๊คหูฟังและไมค์มาแบบแยกกันคนละตัว ทำให้มันต้องเสียบกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้รูเสียบแบบโบราณแยกกันระหว่างไมค์กับหูฟัง ถ้าจะเสียบกับโน้ตบุ๊คยุคใหม่ หรือเสียบกับสมาร์ทโฟนที่มีรูเดียว เราจะต้องใช้อแด๊ปเตอร์รวมสองแจ๊คให้ออกเป็นแจ็คเดียวที่เป็นแบบ TRRS ซึ่งก็มีแถมมาในกล่องด้วย
หูฟัง Epos แนะนำให้ใช้กับซาวด์การ์ดที่สามารถสร้างเสียงรอบทิศแบบ Virtual 7.1 ด้วย จะเป็นซาวด์การ์ดภายในหรือเป็นแบบแยกชิ้นติดตั้งภายนอกก็ได้ ยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่ Epos เองก็มีทำ External soundcard ออกมาขายด้วย และหน้าตาก็ดูสวยงามเข้ากันได้กับหูฟังตัวนี้ ที่แนะนำให้ใช้ร่วมกันก็คือ Epos Gsx300 ซึ่งเป็นรุ่นเล็กสุดหน้าตากระทัดรัดสวยงาม และมีสีขาวให้เลือกใช้
ระบบเสียงรอบทิศ Virtual 7.1 จะจำลองเสียงรอบทิศให้เราได้ยินคล้ายๆกับเมื่อเราอยู่ในห้องดูหนัง มันจะทำให้เรารู้สึกว่ามีลำโพงคู่หน้า ลำโพงเซนเตอร์ ลำโพงด้านหลังของเรา ทดลองฟังกับหนังที่บันทึกหรือให้เสียงแบบ Dolby Digital 5.1 หรือ Dts 5.1 ก็ได้ เราจะได้ยินเสียงรอบทิศเหมือนเราอยู่ในห้องโฮมเธียเตอร์ เหมือนกับที่เราได้ยินในโรงหนัง แม้จะไม่ได้ชัดเจนเด็ดขาดเหมือนฟังจากลำโพงแยกชิ้นจริงๆ แต่มันก็ทำได้ดีพอใช้ได้ และมันน่าใช้กว่าการดูด้วยเสียงสเตอริโอปกติ
การใช้ Virtual 7.1 ในหูฟังนอกจากจะทำให้ดูหนังสนุกแล้วแล้ว ยังเหมาะกับการเล่นเกมส์ด้วย เพราะเสียงรอบทิศในเกมส์เป็นเสียงที่ออกแบบเสียงอย่างจงใจ ทุกเสียงสร้างขึ้นมาทั้งหมด มันให้ความกว้างของมิติต่างๆที่ชัดเจน ให้น้ำหนักเสียงที่ดุดัน ให้เสียงเอฟเฟ็คที่ชัดมาก ชัดสุดๆ การยิงและการระเบิดในระยะใกล้ของเหตุการณ์ในเกมส์ทำให้ตกใจได้ง่ายๆเลย ใครชอบเล่นเกมส์ควรจะต้องใช้ระบบ 7.1 เสมอ เพราะมันทำให้เกมส์สนุกขึ้นอีกมาก
สรุป
หูฟัง Epos GSP301 เป็นหูฟัง Fullsize ที่มีคุณภาพเสียงที่ดี สามารถใช้ฟังเพลงแบบจริงจังได้ สามารถใช้สื่อสารในการประชุมทางไกลผ่านหน้าจอได้ มีก้านไมค์ที่รับเสียงได้ดี สามารถปิดไมค์ได้ด้วยการโยกขึ้น มีปุ่มปรับระดับความดังที่ตัวหูฟังทำให้สะดวกในการใช้งาน สีขาวสลับดำดูสวยงามและเข้าพวกกับซาวด์การ์ดภายนอกในค่ายเดียวกัน ถ้าจะให้เลือกหูฟังเพื่อทำงานได้เกือบทุกอย่างโดยไม่เน้นเรื่องขนาด ไม่สนใจเรื่องพกพา ก็เลือกตัวนี้ได้เลย ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ สื่อสาร ทำได้ดีทั้งหมด ด้วยราคาที่ไม่สูงมากยิ่งทำให้หูฟังตัวนี้น่าใช้งาน
คลิปรีวิวบันทึกโดยใช้ Macbookair M1 ต่อหูฟัง Epos GSP301 เข้าที่ช่อง 3.5mm บนโน้ตบุ๊ค ใช้ App ชื่อ Photobooth ในการบันทึก
สั่งซื้อ Epos Gsp301 ได้ที่นี่
ความคิดเห็น